วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

วันนี้จะมาเขียนบทความเรื่อง หน่วยลับสมคบคิดสมคบกระทำการอันมิชอบด้วยความชอบอย่างยิ่งยวด
นับจากปัจจุบันการกระทำการอันมิชอบด้วยความชอบจะยิ่งมากมาย นับไม่ถ้วน อาจเพราะเกิดจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เกิดเป็นการกระทำการใดๆก็ได้โดยไม่ผิดกฏอันควรต่อความชอบด้วยความคิดอันเป็นอิสระ นับวันจะยิ่งหาเจ้ายุทธวิธีที่เข้ามากระทำการอันปราศจากความสงบสุข หรืออาจะเป็นความสุขที่เกิดจากภาวะของสังคมที่แปรเปลี่ยนไปอย่างก้าวกระโดดเอามากๆ ทำไมโลกยุคปัจจุบันถึงได้เจริญขึ้นไปอย่างยิ่งยวด ไม่ว่าจะด้วยเทคโนโลยี หรือจะด้วยความคิดของมนุษย์ที่ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆขึ้นนับไม่ถ้วนเกิดจากสมองมนุษย์ ฝืมือมนุษย์ล้วนๆ นับได้ว่าโลบใบนี้จะเต็มไปด้วยความสุขที่มีทุกสิ่งทุกอย่างและมีอยู่อย่างสมบูรณ์แบบเกิดขึ้นมากมาย จนไม่รู้ว่าอันใดเก่าใหม่ เพราะจากการสังเกตการณ์ของผู้ที่มีความรู้เรื่องโลกธรรมใบนี้ก็ยังเข้าไปสู่กาลยุคที่อาจะเรียกได่ว่ากาลวิบัติ เพราะไม่สามารถระบุหรือเฉพาะเจาะจงลงไปได้ เกิดหน่วยลับมากมายขึ้นบนโลก ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วภายใต้ฝีมือน้ำคิดของมนุษย์ ..... แล้ว..... อนาคตกาลของโลกจะเป็นอย่างไร จะเป็นอย่างนี้อยู่หรือไม่ หรือยิ่งต้องเพิ่มพูนความแตกต่างขึ้นอยู่เรื่อยๆโดยไม่รู้จักสิ้นสุด .........
ดีก็ตรงที่มนุษย์จักได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ไม่ดีก็ตรงที่เราจะแยกแยะถูกผิดไม่ค่อยได้เรื่องได้ราว
แต่อย่างไรก็ดีตามสมควร เราต้องรู้จักมีสติ ละวางสิ่งที่ชอบที่ ไม่ชอบออกจากกันให้ได้ ต้องคอยระวังพิษสงของสิ่งร้ายที่ ต้องตั้งสติตื่นรู้ ตื่นชอบอยู่เสมอ กับกาลอันควรแก่ความถูกต้องเหมาะสม ตามแบบฉบับของตัวเองเท่านั้น .... !!!
บทความเรื่อง เมื่อเราค้นหาตัวตนอีกคนหนึ่งไม่เจอ 555+
เคยไหม เวลาที่เราทำอะไรไปหลายๆอย่างแล้วเป็นเหมือนกับ ราวกับไม่ใช่คนละคนกัน ทำอีกอย่างก็เป็นอีกอย่าง ทำอีกอันก็เป็นอีกคน โดยนับไม่ถ้วน เวลาที่เราทำอะไรไปเยอะ มักจะแสดง Ca rector ที่แตกต่างกันเสมอเพื่อความเข้าใจในบริบท บทบาทของการเป็นอยู่ ชีวิตก็เหมือนกับการแสดงละครในแต่ละด้านแต่ละแบบ แต่ละบทบาทที่เราเป็น ก็เหมือนกับเราเป็นเด็ก มีพ่อแม่ ถูกเรียกว่าลูก เป็นพี่สาวถูกเรียกว่าพี่ น้องสาว พอโตขึ้นมาหน่อยก็กลายเป็น อา เป็น ลุง เป็นเพื่อน พี่ แม่ อา โอ๊ยอะไรเยอะแยะไปหมด บริบทแต่ละอย่างจะสอนให้เราเข้าใจในบทบาทการแสดง ความเหมาะสมของการแสดงเป็นอย่างไร เราเลือกที่จะแสดงออกมาได้ แต่หากเราไปอยู่ในการทำละครเราจะเลือกกระทำไม่ได้เลยเพราะต้องแสดงตามคีเวิร์ด บทบาทที่ผู้กำกับบอก แต่ตอนนี้เราเป็นผู้กำกับการใช้ชีวิตของตัวเอง สนุกจะตาย นั่นไงล่ะ สิ่งที่ทำให้เราเป็นมากกว่าตัวตนของเราเอง ได้เรียนรู้ทักษะการแสดง บทบาทและเรียนรู้ผู้อื่นและพร้อมที่จะปรับตัวเข้าหา เพื่อการเรียนรู้ใหม่หรือเพื่อสิ่งที่เราต้องการ โดยไม่ต้องมีใครมากำกับ สนุกว่ายิ่งขึ้นไปอีก ถ้าการแสดงนั่นเราเลือกที่จะเป็นอะไรก็ได้ แต่ถ้าอยู่ๆมีคนมาแอบสังเกตเรา เราจะรู้สึกยังไง เราจะรับได้ไหม เพราะตามใจแล้วไม่ชอบให้คนมารู้จักมักจี่ จริงๆนะ เอาจริงหรือเราไม่ชอบให้ใครมาคอยบ่งการชีวิตเรา แต่ขออยากให้อยู่ห่างๆกัน เยอะเท่าไหร่ยิ่งดี จะได้จูนถูกรัศมีจะได้ไกลขึ้น ชอบตรงนี้มากกว่า ถ้ามีคนมาแอบชอบเรายิ่งรู้สึกอึดอัด ไม่เป็นตัวเอง ถ้าชอบเราให้ถอยออกห่างจากตัวเรามากๆนะ เพราะไฟในตัวมันพลุกพล่าน เธอออว์ อาจถูกเผากลายไปเป็นเฒ่าถ่านได้เลยนะ เหมือนหนังเรื่อง Fantastic 4 จอมพลังคนกายสิทธิ์ ไม่มีผิดเพี้ยนเลย เราเหมือนมีอะไรบางอย่างในตัวที่พร้อมระเบิดได้เสมอ เพราะถ้ารักเราหรือชอบเรา ก็ขอให้อยู่ห่างๆเอาไว้ล่ะกันค่ะ 55555+
เพราะวันใดวันหนึ่ง บอดี้การ์ด ก็อาจเป็นได้
บทเขียนของโลกมนุษย์ ฉบับสมมติ

วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ความลำเอียงของแสงแห่งความดีงาม

วันนี้จะมาเขียนเรื่อง ความลำเอียงของแสงแห่งความดีงาม


เรื่องมีอยู่ว่า ทุกๆวันที่โลกมนุษย์ใบนี้เต็มไปด้วยความว้าวุ่นสับสนวุ่นวาย ยิ่งมีมิติและความต่างมากขึ่น ผนวกมากับความขัดแย้งที่ค่อนข้างจะเยอะแยะและดูว้านวุ่นเลยทีเดียวสำหรับแต่ละวัน มิติการใช้ชีวิตเริ่มมีมากขึ้น ทฤษฏีต่างๆได้ถูกทำลายไปจนหมดสิ้น หลงเหลือไว้แต่เพียงความสับสนวุ่นวาย ทำให้โลกใบนี้เต็มไปด้วยมุมมองที่แตกต่าง ทำไมเอ่ย ที่ผู้เขียนอยากจะนำเสนอเรื่องราวที่ชื่อความลำเอียงของแสงที่ชื่อความดี ...ก็ลองคิดดูซิว่าถ้าความต่างของผู้คนเต็มไปด้วย วิสัยทัศน์ การมองมุมที่แตกต่างอย่างหลากหลายมิติ ความลำเอียงในความต่างจะเกิดขึ้นเป็นอะไร มันจะสามารถก่อตัวเป็นอะไรได้บ้าง เมื่อมีมิติที่ต่างออกไปอยู่มากมาย ..... ดังนั้นการตัดสินในความต่างจึงต้องเกิดขึ้นมาอีก 1 มิติคือ ความลำเอียงของแสงและมุมมองที่ขึ้นชื่อว่าความดีงาม ความชอบพอๆกับความสนใจหรือความรักในสิ่งๆนั้นที่ตนต้องการจะถ่ายทอด เป็นแนวคิดเล็กๆของผู้คนเท่านั้น ดังนั้นหากมีมิติเพิ่มขึ้นมา ย่อมมีความลำเอียงเพิ่มมาอีก 1 มิติเช่นกัน เหมือนซื้อของเราต้องรู้จักเลือก รู้จักศึกษาใส่ใจในสิ่งนั้นก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อ เหมือน เสื้อ 2 ตัว 2 รุ่น 2 แบบ 2 เฉดสี ทำให้เราต้องเลือกเพียง 1 ตัวเท่านั้น เป็นส่วนน้อยนักที่จะมีคนซื้อแบบเหมาหมด ส่วนใหญ่คนต้องเลือกและตัดสินใจภายใต้มิติของความลำเอียงในความดีในแบบฉบับของเรา ที่เราชอบค้นหามันอยู่ ดังนั้นหากมี เสื้อหลายๆตัว รองเท้าหลายๆคู่ เรายิ่งต้องมีความลำเอียงมากขึ้น เหมือนกับเข็มนาฬิกาที่มันต้องค่อยๆเดิน ค่อยๆศึกษา หยุดที่เข็มวินาที เข็มนาที หรือเข็มขั่วโมง จากนั้นมันจะทำหน้าที่ของมันต่อไปคือเดินตามเข็มนาฬิกา แต่บางทีเราก็ลำเอียงในการหยุด ณ ชั่วขณะที่จะมองมันว่าเป็นเวลาเท่าใดแล้ว เรามองเวลาใน moment ที่ลำเอียงต่อการทำงานของมันขณะที่นาฬิกาเข็มทุกตัวยังทำงานเท่าๆกันเป็นวินาที แต่เรากลับหยุดมองมันเพียงชั่วขณะหรือเวลาที่อยากจะมองเท่านั้น อาจจะไปโดนเข็มนาทีที่เท่าไหร่หรือชัวโมงเท่าไหร่ก็ได้ So ดังนั้นเราก็เลยมองโลกใบนี้แบบลำเอียงๆ แสงแห่งความดีที่สาดส่องในแต่ละวัน ดวงอาทิตย์ยังทำหน้าที่ของมันได้ดี แสงแห่งความดีบางทีก็ลำเอียงด้วยการกระทำของมนุษย์ แต่ถ้ามองแบบปกติจะพบกับความจริงที่สวยงามกว่า ดังนั้นความงามที่แท้จริงกับความลำเอียงก็มิพอๆกัน แล้วเราจะแยกแยะออกได้ยังไงว่าความลำเอียงและความดีต่างกันยังไง บางทีคนที่เราคิดว่าดีแล้วเขาก็ไม่ได้ดีดังที่เราเห็นหรือต่างคนต่างชอบ คล้ายกันกำความลำเอียงของแสงว่ามันจะสาดส่องความงามไปในทิศทางไหนเท่านั้นเอง มุมมองของความดีได้ถูกถ่ายทอดไปอย่างงดงามด้วยแสงแห่งความดีที่อาจจะลำเอียงอยู่ทุกขณะๆ


จบ ENDinG
เขียนโดย พจน์ลิขิต (อ่านว่า พด-จะ-นะ-ลิ-ขิด)
แสงแห่งความดีที่ได้ถูกลิขิตเอาไว้แล้ว แม้จะมีมิติแห่งความลำเอียงอยู่ทุกๆการตัดสินใจ โลกใบนี้เต็มไปด้วยมิติที่หลากลายเท่าใดความลำเอียงก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น (แด่คนที่มองมุมโลกสวย)


วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559

ในโลกของความเป็นจริง
ยังมีบางสิ่งที่ซ่อนอยู่  เหนือความคาดหมายของมนุษย์

เราในฐานะนักธุรกิจเครือข่ายขนาดยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลกยังต้องยอมรับว่า
โลกยุคใหม่สมัยนี้ไปเร็วกว่าที่คาดคิดไว้ซ่ะอีก  เร็วจนกระทั่งตามตัวเองไม่ทัน
ในฐานะผู้บริหารบริษัท Global Network ยักษ์ใหญ่ ยังมีบางครั้งที่ต้องชะงักงัน
เพราะฐานข้อมูลกับการเดินของระบบมันไม่ซ้ำซ้อนกันเลยสักฉากสักตอน
มีใหม่ขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ จนต้องออกมายอมรับว่าสู้ไม่ไหวจริงๆ ปล่อยให้การบริหารงานเป็นไปตามวิถีของโลกเถิด  ตื่นเช้ามาโลกเราก็ยังหมุนอยู่ตลอกเวลาแต่ทำไม  โลกถึงได้ไปเร็วกว่าที่คิดไว้
ทุกๆอย่างมีวงจรพามันไปแต่ละวัน แต่ละวินาทีมีอะไรใหม่ๆให้ลุ้นอยู่เสมอ ๆ

แม้แต่นักธุรกิจระดับโลกยังต้องยกย่องและยกหน้าที่ให้กับโลกใบนี้เลย

ดังนั้น หากเรายังมัวยุ่งหรือกระทำตามที่ใจอยากให้เป็นอยู่คงไม่สอดรับกับโลกใบนี้แล้วล่ะ
มันไปไกลเหลือเกินไกลมาก จนอยากจะเชียร์ไปให้ถึงที่สุดเพราะวงจรเหล่านี้มันยังสร้างสรรต์โลกได้อีกมากมายโดยที่เราไม่ต้องเหนื่อยและใช้พลังงานให้ทุ่มเทกับนักธุรกิจหัวโบราณแบบเดิมๆอีกแล้ว

ทุกวันนี้ภาพมันปรากฏชัดมากว่าธุรกิจคอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกค์ หรือคอมพิวเตอร์มันไปไกลมาก
เหนือความคาดหมาย และลาดหุ้นก็ชักจะมีแต่สูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตรงดิ่ง หุ้นไม่ตกเหมือนธุรกิจการเกษตร
การผลิตที่ต้องอาศัยแรงคน เทียบไม่ได้แล้วกับธุรกิจระดับโลกวันนี้


อะไรหลายอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปจนกระทั่งทุกอย่างอยู่ในจุดที่บอกเอาไว้ดเลยว่ามีครบเครื่องมาก
ทั้งสมดุล ทั้ง peak และอุดมสมบูรณ์มากมาย

เอาไว้มาต่อกันในตอนที่สอง  ตอน อะไรที่ไม่ต้องสูญเสีย
สวัสดีวันสงกรานต์ เทศกาลงานเริงรื่นของไทยที่เต็มไปด้วยความสุขของวันครอบครัววันผู้สูงอายุและธรรมเนียมสงกรานต์ของเหล่าวัยรุ่นและเด็กๆ ความสุขที่เต็มไปด้วยความร้อนแรงของอุณภูมิของเดือนเมษายนเป็นความสุขที่มีสีสีนอีกแบบของเทศกาลที่ทุกคนต่างชื่นชอบมันมากๆเพราะได้สาดน้ำ รดน้ำดำหัวขอพรผู้หลักผู้ใหญ่หรือต่างเป็นวันหยุดเทศกาลงานเริ่งรื่นพบปะเพื่อนๆที่รไม่ได้เจอกันนาน ปรากฏการณ์ที่สร้างบรรยากาศและสีสันให้ประเทศมิใช่น้อย

วัน ศุกร์ที่ 15 เมษายน 2559 ได้ทำบุญหาเงินเข้าวัดสร้างหอระฆัง ปิติสุขมากมายแม้จะร้อนก็ยังได้สร้างสิ่งดีๆไว้คู่บ้านคู่เมืองของเรา

เนื่องในเทศกาลงานสงกรานต์ 59

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ยักษ์ผู้สร้างความประหลาดใจแก่ผู้คนทั้งโลก

คืนนี้ลองเอาเรื่องนี้ไปลอง ดูนะ 
มีเรื่องราวอยู่ว่า มนุษย์ยักษ์ตนหนึ่ง เขาเดินทางจากภูเขาฟูจิอันกว้างใหญ่ แต่ระวห่างทางมีคนบอกว่าไม่ต้องไปหรอก เพราะที่ที่ท่านจะไปนะ มันยากลำบกเหลือเกิน มีสิ่งอันตรายอยู่มากมายในนั้น แต่ยักษ์ตนนั้นกลับยังไม่ปักใจเชื่อและไม่พยายามที่จะเชื่อให้เกินเหตุ จึงเดินทางต่อ ระหว่างทาง เขาก็ต้องพบกับสิ่งอันตรายมากมาย สิ่งเหล่านั้นล้วนก่อกำบังให้เขาเดินทางต่ออย่างไม่มีผู้ใครห้ามปรามได้ เพราะยักษ์ตนนั้นรู้ดีแล้วว่าความโหดร้ายก็ยังไม่เคยสู้กับความดีได้เลย เพราะความดีเท่านั้นที่จะเทียมทานโลกใบนี้ไว้ได้ แต่สิ่งอันตรายและชั่วร้ายก็ได้แต่เพียงหวังให้เขายอมแพ้ต่อเหตุการณ์ต่างๆนาๆ ยักษ์ตนนั้นก็ยังคงไม่ยั้งที่จะเดินทางไปต่อยังเป้าหมายที่เขาได้ตั้งไว้ การต่อสู้ต่อสิ่งที่เป็นอันตรายถือเป็นเพียงเรื่องราวอันน้อยนิด ไม่ยิ่งใหญ่และลึกซึ่งเท่าความดีที่เขาปรากฏเห็นแก่ใจตนเองแล้ว เพราะโลกนี้หากไม่มีความดีคงต้องสลายมลายหายสูญกันไป และไม่อาจทานไหวต่อภูเขาไฟ อาจจะต้องถูกพวกสิ่งชั่วร้ายเล่นงานอยู่เป็นแน่ เขาเลยต้องพยายามรักษาความดีนั้นไว้ และทำเป้าหมายให้ถึงฝั่งตามที่ตั้งใจ ถ้าเป็นทุกคนอาจต้องยอมสยบให้กับการทัดทานที่เป็นสิ่งชั่วร้ายิส่งที่ไม่ปรากฏแน่แท้ สร้างความงี่เง่าให้กับพวกมนุษย์ แต่ยักษ์ตนนี้ก็ได้สร้างความประหลาดใจส่งต่อไปถึงผู้คนอีกทั่วโลก เพราะมนุษย์ที่จะมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการรักษาเนื้อรักษาตัว และคุณงามความดีของตนให้คงอยู่ไว้ก็แค่นั้น ไม่ต่างอะไรกับไฟที่เกิดขึ้นมาแผดเผ่าแล้วดับไปเอง ความดีหรือความชั่วก็เป็นเช่นนั้น อย่าได้แคร์ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นนักเลย แต่จงมองถึงผลลัพธ์หรือคุณความดีที่งดงามไว้ในใจเสมอ อาจช่วยให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นมาได้ดังแสงไฟที่สว่างโชติช่วงแม้ดับไปก็จะเห็นแก่ใจผู้อื่น ส่งต่อคุณงามความดีที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริงแล้วนั้น ทุกสิ่งมีเกิดดับ แต่ถ้าอยากให้มันเป็นไปต้องรู้จักที่จะรักษาไว้ให้คงอยู่ ไม่ให้ใช้ไฟลนตัวเองโดยไม่คิดว่าสิ่งใดถูกต้องหรือผิดแปลกออกไป
เขียนโดย กุนซือ น้อย ผู้ประสงค์ใหญ่ (กรรมมานุสติ)

กาลครั้งหนึ่งซึ่งแต่เดิมไม่เคยมีมา .

กาลครั้งหนึ่งซึ่งแต่เดิมไม่เคยมีมา ....
ทำไมมนุษย์เรต้องอาศัยวัฎจักรในการดำรงอยู่ เพราะมนุษย์มีที่มาที่ไปของแต่ละอย่างต่างกันจึงต้องอาศัยวัฎจักรในการขับเคลื่อนความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ วัฏจักรมนุษย์สำคัญมากหากใครดำรงอยู่โดยไม่ได้มีแนวยึดของวิถีทางธรรมชาติและวัฎจักร ก็จะใช้ชีวิตอยู่ได้ยากและแตกต่างจากสภาพความเป็นอยู่ของมนุษย์ส่วนใหญ่ เดี๋ยวคราวหน้าเรามาคุยกันต่อเรื่องวัฎจักรการดำรงอยู่ของมนุษย์กันต่อนะ แต่ตอนนี้ขอตัวไปดูหนัง Warm Body ซอมบี้ที่รักก่อนนะ อิอิ แล้วจะมาสานต่อเรื่องวัฎจักรกัน นะจ๊ะ
หนุงหนิง ณ วันเวลาข้ามฟ้าไปอีกอีกพิภพหนึ่ง ^^